วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

รูปไผ่ พงศธร




























































ประวัติไอดิน อภินันท์



ชื่อ ไอดิน อภินันท์วันเกิด 22 กรกฎาคม 2527อายุ 23 ปี


การศึกษา กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี มสธ. นิเทศศาสตร์


มีพี่น้อง 3 คน เป็นบุตรคนสุดท้องบ้านเกิด จังหวัดมุกดาหาร


อุปนิสัย ร่าเริง สนุกสนาน


งานอดิเรก อ่านหนังสือ ร้องเพลง ฝึกเล่นกีตาร์


ความเป็นมา มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ผู้เป็นอาแท้ๆแนะนำให้ไอดินมาลองเทสต์เสียงที่บริษัท ชัวร์ออดิโอ เมื่อเรียนหนังสือจบชั้นปวช.3 เขาจึงได้เดินทางมาหาประสบการณ์ที่กรุงเทพฯ และเข้ามาทดสอบเสียงที่บริษัทชัวร์ฯ ซึ่งเป็นโชคดีของเขาที่บริษัทสนใจเปิดรับ และให้โอกาสนักร้องหน้าใหม่อย่างเขาเข้ามาฝึกฝนทักษะการร้องเพลง และก้าวสู่การเป็นนักร้องในสังกัด


นักร้องที่ชอบ ไหมไท ใจตะวัน / โลโซ


สีที่ชอบ ดำ ขาว หรือสีสันสดใส


อาหารจานโปรด อาหารอีสาน


หนังที่ชอบ สะเทือนใจ แนวสงคราม


หนังสือที่ชอบ หนังสือเพลง


การแต่งตัว สไตล์อีสาน สบาย ๆ กางเกงยีน


อนาคต เป็นนักร้องคุณภาพ คนดีของสังคม


ผลงานที่ผ่านมา ชัวร์ชะชะช่า ชุดที่ 5 –6 / พระเอกมิวสิกวีดีโอ เพลง ติดร.วิชาลืม ของ แอร์ สุชาวดี

และเพลง ค่อยๆปล่อยมือ ของ ฝน ธนสุนทร


ผลงานเดี่ยว อัลบั้ม แอบจูบรูปจอย

รางวัล-รางวัลศิลปินลูกทุ่งหน้าใหม่ฝ่ายชายยอดนิยม จากงานมหานครอวอร์ด ครั้งที่ 4จัดโดยสถานีวิทยุ อสมท. เอฟ.เอ็ม. 95 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ( 14 มิ.ย. 2551 )- รับคัดเลือกให้เป็น “ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่” จากสภาสังคมสงเคราะห์ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๑

ประวัติมนต์แคน แก่นคูณ


ประวัตินักร้องลูกทุ่งหมอลำเสียงสุดสแนน มนต์แคน แก่นคูณ

ชื่อ-นามสกุล :สิบเอก กิติคุณ บุญค้ำจุน

ชื่อในวงการ : มนต์แคน แก่นคูณ

วันเกิด :

ที่อยู่ปัจจุบัน : อ.เลิงนกทาจ.ยโสธร ประวัติเพิ่มเติม

น้ำหนัก: 74 ก.ก.

ส่วนสูง : 177 ซ.ม

ศาสนา : พุทธ

อาชีพปัจจุบัน : นักร้อง ,ทหาร

ผู้ชักนำสู่วงการ : อ.สลา คุณวุฒิ , อ.สวัสดิ์ สารคาม

สังกัดค่าย : G-MM แกรมมี่โกคล์

อาหารที่ชอบ : ข้าวผัดอเมริกัน

ขนมที่ชอบ : ขนมครก

กีฬาที่ชอบ : ยิงปืนครับเพราะผมเป็นทหาร

แนวภาพยนต์ที่ชอบ : บู๊ล้างผลาญ

แนวเพลงที่ชอบ : ลูกทุ่งหมอลำ

นักร้องที่ชอบ : คู่แฝดคนอีสาน โอ-เอ

คณะหมอลำที่ชอบ : เสียงอิสาน แม่นกน้อย อุไรพร , ระเบียบวาทะศิลป์ **มนต์แคน นับถือแม่นกน้อยเสมือนเป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่ง**

นักแสดงที่ชอบ : จา พนม ยีรัมย์

เพลงที่ชอบ : ยามท้อขอโทรหา , อดีตรักมักสาวครู

ยามว่าง : อ่านหนังสือ

ของสะสม : หนังสือเก่า ๆ

สีที่ชอบ : ฟ้า

สัตว์ที่ชอบ : สุนัข

สัตว์ที่เกลียด : ตะขาบ

ผลงาน ยังคอยที่ซอยเดิม (พ.ศ.2549)

ยามท้อขอโทรหา (พ.ศ.2550)

สร้างฝันด้วยกันบ่ (พ.ศ.2551 )

งานเพลงที่รู้จัก ยังคอยที่ซอยเดิม

อดีตรักมักสาวครู

คึดฮอดจนฝันเห็น

ยามท้อขอโทรหา

รอพี่ที่นวนคร

ทิ้งนามาสร้างฝัน

สร้างฝันด้วยกันบ่ --พ.ศ.2551

บอกลาโทรมาก็ได้

ฮู้บ่ว่าฮึดฮอด

อ้ายฮักเจ้าเด้อ

อยากมีที่จอดใจ

แฟนเขาผู้สาวอ้าย

ร้องไห้แข่งทุ่งกุลา

ยังฮักคือเก่า

ขอนางเป็นยางลบ

โรงงานปิดคิดฮอดน้อง

ฮู้บว่าคิดฮอด


ผลงานเพลงของไผ่ พงศธร


ผลงานอัลบั้มเดี่ยว


♥ ชุดที่1.ฝนรินในเมืองหลวง (พ.ศ. 2548)

1 ฝนรินในเมืองหลวง

2 คิดฮอดวันละหน่อย

3 ยืมหน้ามาเข้าฝัน

4 ฮักสาวอีเลคโทน

5 แขกผู้มีเกิบ

6 สบตาที่หน้าจอ

7 หัวใจไม้ลำปอ

8 ฮักเจ้าคือเก่าเด้อ

9 สัญญาฮักปากทาง

♥ ชุดที่2. คำสัญญาของหนุ่มบ้านนอก (พ.ศ. 2550)

1 เบอร์โทรนี้มีแฟนหรือยัง

2 สุดท้ายคืออ้ายเจ็บ

3 หวานใจหน้าจอ

4 ขอแค่ได้บอก

5 ห่วงเจ้าสาวลำน้ำมูล

6 เต็มใจให้ตั๋ว

7 ไปรักกันที่อื่น...ได้บ่

8 สาวนาขาแดนซ์

9 ใจหล่นที่หน้าราม

10 คำสัญญาของหนุ่มบ้านนอก

♥ ชุดที่3 อยากบอกว่าอ้ายเหงา (พ.ศ. 2551)

1 สาวกันตรึม

2 บังเอิญมีหัวใจ

3 อยากบอกว่าอ้ายเหงา

4 กลับมาถามหากำลังใจ

5 คนบ้านเดียวกัน

6 ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปก่อน

7 ลูกจ้างความจน

8 แอ๋มของอ้าย

9 ข้อความจากเถียงนาน้อย

10 เมือเล่นสงกรานต์

♥ ชุดที่4 อยากมีเธอเป็นแฟน (พ.ศ. 2552)

1 แสงเดือนถามข่าวแสงดาวนำทาง

2 สู้เด้อพี่น้อง

3 อยากมีเธอเป็นแฟน

4 สักคนที่เข้าใจ

5 ขอบคุณทุกแรงใจ

6 ยิ่งห่างยิ่งคิดฮอด

7 ยางลบหัวใจชื่อเสียสละ

8 เฮาเป็นเสี่ยว

9 เตรียมนายฮ้อย

10 คิดฮอด... ฮักแท้


♥ ชุดที่5 มีเธอจึงมีฝัน (พ.ศ. 2552)


1 มีเธอจึงมีฝัน


2 เพราะรักถึงลาก่อน


3 ฝันมีไฟใจเกินร้อย


4 ลูกตจว.


5 ยามคิดฮอด...กอดด้วยอ้อมใจ


6 ขอเป็นผู้ช่วยเจ็บ


7 ทบ.2ลูกอีสาน


8 สาวเย็บผ้า


9 โยนใจถามทาง


10 อยากเห็นหน้าเธอทุกวัน


11 เนียง เนอว อินา (น้องอยู่ที่ไหน)

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประวัติ ไผ่ พงศธร ศรีจันทร์


จากเด็กชายที่เกิดมาในครอบครัวชาวนาที่ยากจนในหมู่บ้านสร้างแต้ อ.กุดชุม จ.ยโสธรเด็กชายคนนั้นได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวมีอดบ้างมีกินบ้าง คละเคล้ากันไปตามสภาพสังคมชนบท กาลเวลาผ่าน ไปจนเขาเติบใหญ่ และเรียนจนจบมัธยมปลาย เขาจึงเดินทางเข้ากรุงเทพด้วยความคิดแต่เพียงว่ามาช่วยพี่สาวขายลาบแต่แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อมีคนเห็นแววและพยายามผลักดันกันอยู่หลายปี จนเขได้มีโอกาสทำเพลงกับค่ายกับแกรมมี่โกลด์ใน ชื่อชุดว่า?ฝนรินในเมืองหลวง?ไผ่ พงศธร เกิดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2525 มีพี่น้อง 4 คนไผ่จะเป็นคนสุดท้ายที่บ้านมีอาชีพทำนาและพ่อแม่จะมีอาชีพเสริมคือเล่นหมอลำชีวิตในวัยเด็กของไผ่ จะเป็นครอบครัวที่ลำบากด้วยความยากจน พ่อแม่ไผ่ต้องพาครอบครัวออกไปอยู่ที่นาที่ห่างจากหมู่บ้านออกไปประมาณ3 ก.ม. โดยปลูกเป็นกระต๊อบเล็กๆที่แทบจะกันแดดกันฝนได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรเลยนอกจากวิทยุทรานซิสเตอร์และทีวีขาวดำขนาดเล็กที่เวลาดูต้องต่อไฟจากแบตเตอรี่ จนต่อมาเมื่อขึ้นชั้น ม.4 พ่อของไผ่ก็เสียชีวิต ในช่วงนั้นถือเป็นการหักเพชีวิตครั้งใหญ่เพราะพ่อคือเสาหลักของบ้าน ไผ่ต้องตัดสินใจออกไปทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้น และเป็นจังหวะเดียวกันกับคณะหมอลำแถวบ้านที่ไผ่มักชอบไปนั่งดูการแสดงเสมอขาดนักแสดงหน้าวงพอดีเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมวงหมอลำทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่เด็กยกเครื่องและเต้นโชว์หน้าเวที ร่วมคณะอยู่ประมาณ2ปี ทางวงหมดหน้างานจึงทำให้เด็กในวงลำบากจนต้องออกมา?ลำขอข้าว?เป็นการลำในหมู่บ้านเพื่อขอข้าวจากบ้านต่างๆจะถือกระบุง กระสอบบ้างตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆเพื่อขอข้าวมาขายแล้วเลี้ยงในวงที่ไม่มีงาน ทำอยู่ได้ไม่นานก็ต้องแยกย้ายกันไป เพราะเงินไม่พอเลี้ยงเด็กในวง ในช่วงที่อยู่บ้าน ไผ่ได้รู้จักกับ หยก ลูกหยี (จิตรชัย ภวังคาม)จากการชักชวนของญาติ หยกได้ชักชวนอยากให้ไผ่ได้เป็นนักร้อง ด้วยการทำเดโมเพื่อไปเสนอตามค่ายเพลงต่างๆสลับการประกวดร้องเพลงจากเวทีต่างๆ และก็ได้ห่างกันไป เล่นหมอลำและเรียนหนังสืออยู่จนจบ ม.6 จากนั้นพี่สาวก็ให้ไผ่ เข้ากรุงเทพฯ มาช่วยขายลาบแถวราษฏร์บูรณะ ไม่ว่าจะล้างจาน เด็กเสิร์ฟ ทำความสะอาด และต่อมาได้รับการติดต่อจากหยก เพื่อจะนำเสนองานเพลงกับค่ายเพลงอีกครั้งในช่วงนั้นไผ่จึงตัดสินใจแยกออกมาจากพี่สาวเพื่อทำเพลงเสนอค่ายเพลงอีกครั้งช่วงนั้นเป็นช่วงของความลำบากของไผ่ หยก และเพื่อนๆเป็นอย่างมาก บางวันมีเงินรวมกันแล้วได้แค่ 5 บาทต้องเอาเงินซื้อข้าวเปล่ามา 1 ถุงส่วนกับข้าว ไม่ต้องพูดถึงไม่มีอยู่แล้วเพราะมีเงินแค่นั้นจึงต้องใช้วิธีขอน้ำปลาจากร้านที่ซื้อข้าวโดยเทใส่ถุงเล็กๆมาด้วย พอถึงห้องก็ใช้น้ำปลาราดข้าวและด้วยความที่ไม่มีเงินทั้งจานและช้อนกินข้าวก็เลยไม่มี พอไม่มีช้อนก็เลยเอามีดตัดขวดพลาสติกมาทำเป็นช้อนแบ่งกันคนละนิดละหน่อยจนบางครั้งถึงขนาดที่ไม่ได้กินข้าวถึง 2 วัน เพราะไม่มีเงิน ซื้อจนบางครั้งต้องเอาบัตรประชาชนไปเซ็นร้านค้าแถวนั้นแต่พอบ่อยๆก็ไม่ให้เซ็นแม้กระทั่งขึ้นรถเมล์ยังไม่มีเงินจำต้องเดินเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรเลยทีเดียวหรืออย่างบางครั้งต้องเดินดูตามตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อดูว่ามีเงินที่ค้างอยู่ตามช่องคืนเหรียญบ้างหรือเปล่าบางครั้งต้องเดินเป็นสิบๆ ตู้ซึ่งก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าได้ก็แค่ประมาณ4 ? 5 บาทเท่านั้น ไผ่บอกว่าช่วงนั้นอย่าว่าแต่เรื่องของอนาคตเลยไม่มีความหวังเขาคิดแคเพียงว่า วันพรุ่งนี้จะเอาอะไรมากินแค่นั้นเองชีวิตเป็นแบบนี้อยู่นานและบ่อยครั้งที่ไผ่ท้ออยู่หลายครั้ง และคิดเลิกจะเป็นนักร้องในที่สุดไผ่ก็ตัดสินใจไปช่วยพี่สาวขายลาบอีกครั้ง แต่จากนั้นไม่นานโชคชะตาก็เข้าข้างเมื่อหยกได้พบอ.สลาและนำเดโมที่เคยทำให้ อ.สลาลองได้ฟัง จน อ.สลาสนใจและเรียกเข้าไปสกรีนเทสต์ที่แกรมมี่ในครั้งแรกไผ่ไม่เชื่อหยกว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเค้ามีความคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยากที่จะเข้ามาแกรมมี่ได้จนในที่สุดได้สกรีนเทสต์ และได้เซนต์สัญญา จนได้ออกอัลบั้มในที่สุด ช่วงรอทำอัลบั้ม ทางบริษัท แกรมมี่โกลด์ ก็หางานให้ทำ โดยส่งให้ขึ้นเวทีวงไมค์ ภิรมย์พร เป็นครั้งแรก เพื่อฝึกฝนตัวเองและเก็บเกี่ยวประสบการณ์หน้าเวทีให้ดีขึ้น ซึ่งในช่วงนั้นก็นำเพลงของนักร้องรุ่นพี่อย่าง เอกพล มนต์ตระการ มาขับร้อง เพราะยังไม่มีเพลงเป็นของตัวเอง กับอัลบั้มแรกในชีวิต?ฝนรินในเมืองหลวง? จากนั้นการเริ่มต้นของชีวิตนักร้องก็เกิดขึ้น แกรมมี่โกลด์ ได้ใช้เวลาบ่มเพาะร่วม 2 ปีอัลบั้มชุดนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้การดูแลของครูสลา คุณวุฒิ?กลุ่มดาวรุ่งลูกทุ่งติดดาว? และนักแต่งเพลงดาวรุ่ง วสุ ห้าวหาญ โดยมี สิงห์เฒ่า ทุ่งขี้เหล็ก เป็นผู้สร้างสรรค์งานดนตรี มีหลากหลายบทเพลง

100 ข้อคิดดีๆ สั้นๆ เตือนใจคุณ


1.เอาใจเขามาใส่ใจเรา

2.เชื่อมั่นตัวเอง

3.อย่ามองคนที่หน้าตา

4.กล้าคิด พูด และทำ

5.เมื่อมีเรื่อง จงหมั่นปรึกษาผู้อื่น

6.และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย

7.อย่าโกหกกับเรื่องที่คุณคิดว่าผิด

8.ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ

9.เปิดใจให้กว้าง

10.มองการณ์ไกล

11.วางแผนอนาคต

12.อย่าโทษตัวเอง

13.มีความรับผิดชอบ

14.ตอบแทนเมื่อได้รับ

15.ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้และไม่มี

16.อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิด

17.คิดถึงส่วนรวมให้มาก

18.ดูแลตัวเองให้เป็น

19.รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี

20.อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า

21.อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียไปแล้ว

22.จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร

23.ที่ทำอยู่มีผลดี ผลเสีย มีประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์

24.อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก

25.ให้อภัยแก่ตนเองและผู้อื่น

26.อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตนเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน

27.คนไม่ผิดคือคนที่ใหม่เคยทำอะไร

28.ได้หน้าอย่าลืมหลัง

29.คุณไม่ใช่พระเจ้า อย่าคิดซ่อนความรู้สึก แต่จงวางแผนที่จะดูแลมันไม่ให้เสีย

30.อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์ผ่านๆ

31.อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง

32.รู้จักแบ่งเวลา และหน้าที่

33.ทำประโยขน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง

34.อย่าเห็นแก่ตัว

35.อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

36.อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้หรือเปลี่ยนแปลงมันได้

37.กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง

38.เพื่อนไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันก็คุยกันได้

39.อย่าคิดว่าเขาไม่โทร.มา ถ้าคุณก็ไม่เคยโทร.ไป

40.จง เป็นฝ่ายให้มากกว่าเป็นฝ่ายรับ

41.ดูแลบิดามารดาให้ดี คุณมีโอกาศ รีบทำซะก่อนที่จะไม่มี

42.อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลวร้ายหรือสูญเสียไปแล้ว มันไม่กลับมา แต่คุนสามารถทำมันใหม่หรือเรียนรู้จากมันได้

43.คำพูดเมื่อพูดไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับมาได้ ดังนั้น คิด ก่อนพูด

44.อย่าทุ่มเทในสิ่งที่ไร้ประโยชน์

45.คำพูดให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จงรู้ที่จะพูด

46.ชีวิตไม่ใช่เกม พลาดแล้วไม่สามารถเริ่มใหม่หรือกดโหลดได้

47.หาจุดหมายให้กับชีวิต

48.เครียดได้ แต่เครียดให้เป็น

49.ถ้างง เขียนหนังสือได้ แต่เขียนให้เป็นภาษา

50.วันๆหนึ่งคุณทำอะไรบ้าง ที่ไม่ใช่ กิน นอน เล่น

51.ไม่มีหมอคนไหนรอให้คนไข้จะตายแล้วค่อยช่วยหรอกน

ะ 52.เพื่อนคุณก็เช่นกัน อย่าปล่อยให้เขาเครียดจนจะตายแล้วถึงไปถามหรือดูแล

53.ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ให้มันพักผ่อนซะบ้าง

54.คุณซื้อนาฬิกาได้ แต่คุณไม่สามารถซื้อเวลาได้

55.ตอนนี้มีใครคอยคุณอยู่รึเปล่า ถ้ามีกลับไปหาซะ

56.ตอนนี้คุณถึงเมื่อไหร่ ทำอะไรซะบ้าง

57.อย่ากล่าวคำขอโทษบ่อย มีอะไรดีๆตั้งหลายอย่างที่ทำแล้วไม่ต้องตามไปขอโทษ

58.ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ

59.ตอนนี้คนกำลังสบายอยู่ แล้วคนที่คุณเคยขอความช่วยเหลือล่ะ หมดประโยชน์แล้วหรือ

60. ไม่ใช่ แล้วไง ต้องให้บอกต่อมั้ย

61.ทำอะไรก้อได้ให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าบนทุกข์ของคนอื่น

62.ตอนที่คนกำลังอ่านประโยคนี้ จงจำไว้ว่าคุณเป็นมนุษย์ และยังมีชีวิตอยู่

63.ใครเป็นคนทำให้คุนมีชีวิต ตอบแทนเขาบ้างหรือยัง

64.ไม่ต้องรอให้ถึงวันพิเศษใดๆ แค่เข้าไปบอกเขาว่ารักก้อเพียงพอแล้ว

65.อย่ารอให้ถึงวันเกิดเพื่อน ถึงจะได้คุยกันหรือให้ของขวัญกัน

66.ไม่มีกฏหมายข้อใดห้ามให้ของขวัญในวันธรรมดา

67.ถ้าเป็นคุณอยู่ดีๆ มีเพื่อนเอาขนมมาให้ คุณจะรู้สึกดีมั้ย หรือดูที่ราคาขนม

68.เหล้าทำให้คุณลืมได้ตอนเมาแอ๋ แต่เพื่อนแท้ทำให้คุณลืมเรื่องร้ายๆได้ตลอดชีวิต

69.อย่าคิดว่าตนเองไม่มีเพื่อนหรือไม่มีใคร อย่างน้อยๆถ้าคุณได้อ่านข้อความนี้ จงรู้ไว้ว่าคุณยังมีคนพิมพ์คนนี้อีกคน

70.อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคดีที่สุด

71.อย่าพูดว่าไม่มาเป็นเราไม่รู้หรอก ถ้า งั้นคุณก้อไม่รู้เรื่องของเขาเช่นกัน

72.เหนื่อยนักก็หยุดพักซะบ้าง

73.อย่าคิดว่าคนดีไม่มีในสังคม เพราะคุณก็เป็นคนเพียงแต่คุณยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง

74.ปริศนาในเกมคุณแก้ได้ แล้วทำไมปริศนาในชีวิตคุณแก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุปอยู่ในตัวคุณ

75.คุณมองเพชรที่ความงามภายในหรือป้ายราคาภายนอก

76.ถ้าคุณกินอาหารเหลือ ลองนึกถึงเด็กที่ไม่มีอันจะกิน

77.มีเรื่องราวอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนอยู่ในหนังสือ ลองค้นคว้าดูจะรู้

78.ลูกธนูที่ถูกปล่อยจากหน้าไม้ อันตรายน้อยกว่าหอกที่เเทงมาจากข้างหลัง

79.การถูกหักหลังเป็นสิ่งที่เจ็บปวด อย่าให้มันเกิด

80.ทำยังไง ต้องให้ขโมยขึ้นบ้านก่อน ถึงไปดูรั้วบ้านใช่มั้ย

81.ทำใจกับสิ่งต่างๆ ล่วงหน้าไว้บ้างก้อดี

82.จะยกตัวอย่าง สมมติคนที่คุณรักจากไปตอนนี้ คุณคิดว่า คุณทำอะไรให้เขาบ้างหรือยัง

83.อย่าตอบว่าทำยังไงก็ตอบแทนไม่หมด ขอถามว่าทำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

84.คุณทำใจได้แล้วหรือถ้ามันเกิดอะไรขึ้น คุณไปร้องไห้ข้างโลงศพ ยังไงเขาก้อไม่ฟื้นมาได้ยินหรอกนะ

85.ตัวคุณมีค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณรู้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า

86.หัดคุยกับตัวเองซะบ้าง แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากมายที่คุณยังไม่รู้

87.ร่างกายใช้มากี่ปีแล้ว เคยดูแลมันบ้างรึเปล่า หรือเอาไว้เพื่อให้วิญญาณมีที่สิงสถิต

88.การใส่เสื้อสวยๆไม่ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นหรอกนะ ที่ดีขึ้นคือบุคลิกต่างหาก

89.หาความสุขของตัวเองให้เจอ หัดมีความสุขซะบ้าง อดีตเราลืมไม่ได้แต่เลิกคิดได้

90.ลองทำอะไรบ้าๆบ้างก้อดี อย่ายึดติดนักเลย

91.ผู้พิมพ์ไม่ใช่คนรู้อะไรมากมาย ไม่ได้มาโชว์ว่าตัวเองอวดรู้ แต่อยากให้คุณได้รุ้อะไรไว้บ้างก็ดี

92.สิ่งที่คุณปล่อยผ่านๆ ไปในชีวิตหรือเรื่องคุนเห็นว่าไม่สำคัญ กลับมาดูเเลตรงนั้นบ้างก็ดี

93.อย่าไว้ใจใครเกินไป ไม่ได้สอนให้ระแวงไม่ไว้ใจใคร แต่ระวังไว้บ้างก็ดี

94.อย่าตามเพื่อนนัก กินเหล้า เล่นไพ่ เที่ยวหญิงเที่ยว

95.ยาเสพติดทุกชนิด อย่าคิดจะลองเด็ดขาด

96.อย่าทำตามเพื่อนเพราะเพื่อนทำกันหมด ร่างกายเขากับร่างกายเรา แน่นอนจิตใจก็เหมือนกัน

97.ผู้ชายยังไงก้อคือผู้ชาย ผู้หญิงยังไงก็คือผู้หญิง

98.บางครั้งการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป

99.ไม่มีมิตรถาวรและศัตรูที่เเท้จริง

100.จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อตัวเราเอง คนที่เรา รัก และคนที่อยู่รอบกายเรา

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552


การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
(Microsoft Windows)
เนื้อหาจะเป็นการแนะนำ การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น ต่าง ๆ ที่จำเป็น ตั้งแต่การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การจับเม้าส์ การกดปุ่มบนเม้าส์ ตลอดจนการเปิดโปรแกรมต่าง ๆ ขึ้นมา การปิดโปรแกรมต่าง ๆ เมื่อไม่ใช้งาน การแก้ไขเครื่องในกรณีเครื่องเกิดอาการ Hang การปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง
การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
1. ตรวจสอบปลั๊กเสียก่อนว่า เสียบเรียบร้อยดีหรือไม่
2. ที่จอภาพ กดสวิทซ์ เพื่อเปิดจอภาพ
3. ที่ CPU. ด้านหน้า จะมีสวิทซ์ เพื่อเปิดเครื่อง (กดเบา ๆ )
4. เมื่อเปิดเครื่องแล้ว รอสักครู่ ที่จอภาพจะมีข้อความเพื่อตรวจสอบระบบต่าง ๆ
5. จากนั้น จะมีเสียง 1 ครั้ง
6. ที่หน้าจอภาพจะขึ้นคำว่า Windows เป็นการเริ่มต้นการใช้เครื่อง เพราะเครื่องจะต้องเรียกโปรแกรมควบคุมเครื่องที่ชื่อว่า Windows เสียก่อน (จะใช้เวลาประมาณ 3 นาที)
7. จากนั้นหน้าจอภาพจะมีโปรแกรมต่าง ๆ อยู่ด้านซ้าย และด้านล่างจะมีแถบ Task Bar ให้เราทำงานได้
การเลิกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
1. คลิ๊กที่ปุ่ม Start
2. เลื่อนมาคลิ๊กที่คำสั่ง Shut Down
3. คลิ๊กปุ่ม Ok
4. รอสักครู่เครื่องจะเริ่มทำการปิดระบบต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์
5. จากนั้นเครื่องจะดับเอง
6. ยกเว้น จอภาพ ให้กดสวิทซ์ ปิดจอด้วย
ส่วนประกอบของหน้าจอภาพเมื่อเข้าสู่วินโดวส์เรียบร้อยแล้ว
1. ส่วนที่เป็นภาพฉากหลัง เราเรียกว่า ส่วนพื้นจอภาพ (Desk Top)
2. ด้านซ้ายของจอภาพ ส่วนที่เป็นรูปภาพ และมีคำบอกว่าเป็นโปรแกรมอะไร เรียกว่า (Icon) ลักษณะจะเป็นโปรแกรมต่าง ๆ ที่วินโดวส์ จะนำมาไว้ที่จอภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นโปรแกรมที่ถูกเรียกใช้บ่อย ๆ
3. ด้านล่างของจอภาพที่เป็นแถบสีเทา เราเรียกว่า (Task Bar) เป็นส่วนบอกสถานะต่าง ๆ โดยที่ด้านขวาของ ทาสบาร์ จะบอกเวลาปัจจุบัน สถานะของแป้นพิมพ์ว่า ภาษาไทย หรือ อังกฤษ โปรแกรมที่ถูกฝังตัวอยู่ ส่วนแถบตรงกลางจะใช้บอกว่า ขณะนี้เราเปิดโปรแกรมอะไรใช้งานอยู่บ้าง ด้านซ้ายของจอภาพ จะมีปุ่ม Start ใช้ในการเริ่มเข้าสู่โปรแกรมต่าง ๆ
การกดปุ่มบนเม้าส์ (Mouse) เม้าส์ในปัจจุบันจะมี 2 ปุ่ม ซ้าย และขวา ส่วนถ้าเป็นแบบล่าสุด จะมีปุ่มคล้าย ๆ ล้ออยู่ตรงกลางเพื่อใช้ในการเลื่อน ขึ้น และ ลง บนหน้าจอภาพ (Scroll Bar) ในการกดปุ่มบนเม้าส์นั้น จะมีวิธีกดปุ่มบนเม้าส์อยู่ทั้งหมด 4 วิธีคือ
1. คลิ๊ก (Click) คือการใช้นิ้วชี้กดปุ่ม ซ้าย ของเม้าส์ 1 ครั้ง ใช้ในการเลือกสิ่งต่าง ๆ บนจอภาพ
2. ดับเบิ้ลคลิ๊ก (Double Click) คือการใช้นิ้วชี้กดปุ่ม ซ้าย ของเม้าส์ 2 ครั้ง ติดกันอย่างเร็ว ใช้ในการเปิดโปรแกรมที่อยู่ด้านซ้ายของจอภาพ
3. แดร๊ก (Drag) คือการกดปุ่ม ซ้าย ของเม้าส์ ค้างไว้ แล้วลากเม้าส์ ใช้ในการย้ายสิ่งต่าง ๆ
4. คลิ๊กขวา (Right – Click) คือการใช้นิ้วกลาง กดปุ่ม ขวา ของเม้าส์ 1 ครั้ง ใช้ในการเข้าเมนูลัดของโปรแกรม (Context Menu)
การเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งาน เช่น ต้องการเปิดโปรแกรมเครื่องคิดเลข (Calculator)
1. คลิ๊กที่ปุ่ม Start ตรงแถบทาสบาร์ด้านล่างซ้ายมือ
2. เลื่อนเม้าส์เพื่อให้ลูกศรที่จอภาพ ชี้ที่คำว่า Program ตรงนี้ชี้ไว้เฉย ๆ ครับ ไม่ต้องคลิ๊กเม้าส์
3. เลื่อนเม้าส์ไปทางขวา ในแนวนอนก่อน แล้วเลื่อนขึ้นไปที่คำว่า Accessories ไม่ต้องคลิ๊กเม้าส์
4. เลื่อนเม้าส์ไปทางขวา ในแนวนอนอีก แล้วเลื่อนลงมาที่คำว่า Calculator
5. จากนั้นจับเม้าส์ให้ นิ่ง ๆ คลิ๊กเม้าส์ 1 ที (คือการกดปุ่ม ซ้าย ของเม้าส์ 1 ครั้ง)
6. กรอบต่าง ๆ จะหายไป แล้วเครื่องจะเปิดหน้าต่าง เครื่องคิดเลขขึ้นมา ถือว่าเสร็จขึ้นตอนการเปิดโปรแกรมเครื่องคิดเลข ขึ้นมาใช้งาน ครับ
การปิดโปรแกรม เครื่องคิดเลข
1. ที่หน้าต่างเครื่องคิดเลข (Calculator) ตรงด้านบน ขวา มือจะมีปุ่มอยู่ 3 ปุ่ม
2. ให้เลื่อนเม้าส์ ไปที่ปุ่มที่ 3 ทางขวามือ (ปุ่มจะเป็นรูป กากบาท X ) เมื่อเลื่อนเม้าส์ไปวางจะมีคำว่า Close
3. คลิ๊ก 1 ครั้ง เครื่องก็จะปิดหน้าต่างโปรแกรมเครื่องคิดเลขไป
การขยายหน้าต่างของโปรแกรมให้เต็มจอภาพ (Maximize)
1. ที่หน้าต่าง ด้านบน ขวามือ ให้คลิ๊ก ปุ่มที่สอง เครื่องจะมีข้อความขึ้นมาว่า Maximize (แต่ถ้าหน้าต่าง ถูกขยายขึ้นมาอยู่แล้ว คำจะเปลี่ยนเป็น Restore ถ้าคลิ๊กลงไปจะกลายเป็นหน้าต่าง ขนาดปกติครับ)
2. จากนั้นเครื่องจะขยายหน้าต่างให้เต็มจอ ส่วนใหญ่เราจะขยายหน้าต่างให้เต็มจอเพื่อให้เห็นรายละเอียดในหน้าต่างมากขึ้นครับ
การลดขนาดหน้าต่างเป็น Icon ลงใน ทาสบาร์ หรือ การซ่อนหน้าต่าง (Minimize)
1. ที่หน้าต่าง ด้านบน ขวามือ ให้คลิ๊กปุ่มที่เป็นขีด ลบ ถ้าเลื่อนเม้าส์ไปวางจะขึ้นคำว่า Minimize
2. คลิ๊กลงไป 1 ครั้ง เครื่องก็จะซ่อนหน้าต่าง ลงไปไว้ด้านล่างตรงทาสบาร์
3. ที่ทาสบาร์จะมีคำเป็นลักษณะปุ่มเขียนว่า ซ่อนโปรแกรมอะไรไว้
4. แต่ ถ้าอยากเรียกขึ้นมาใช้งานตามเดิม ให้คลิ๊กที่ปุ่มด้านล่างที่ทาสบาร์ที่เราซ่อนเอาไว้ เครื่องก็จะเปิดหน้าต่างโปรแกรมที่เราซ่อนเอาไว้ ขึ้นมาใช้งานได้ตามเดิม
การปิดโปรแกรมที่ทำให้เครื่องเกิดอาการแฮงค์ (Hang) อาการแฮงค์ คืออาการที่เราอาจจะเปิดโปรแกรมขึ้นมาหลายโปรแกรม แล้วทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานไม่ทัน หรือเราอาจจะคลิ๊กเม้าส์หลายครั้ง ในขณะที่เครื่องกำลังประมวลผลอยู่ จนเครื่องทำงานไม่ทัน เลยเกิดอาการแฮงค์ ซึ่งอาการแฮงค์นี้จะทำให้เราไม่สามารถคลิ๊กอะไรที่จอภาพได้เลย วิธีการแก้ไขเบื้องต้นคือ
1. ที่แป้นพิมพ์ ให้เรากดปุ่ม Ctrl + Alt ค้างไว้ แล้วอีกมือหนึ่ง กดปุ่ม Delete แล้วปล่อย
2. เครื่องจะขึ้นหน้าต่าง Task Manager ขึ้นมา
3. จากนั้น เราคลิ๊กที่โปรแกรมที่เราคิดว่าทำให้เครื่องแฮงค์
4. ด้านล่าง คลิ๊กที่ปุ่ม End Task เครื่องจะปิดโปรแกรมนั้นทิ้งไป
5. ถ้าไม่มีการปิดโปรแกรมอื่นอีก ก็ให้เลือกปุ่ม Cancel ออกมา